เครือข่ายความรู้ด้านการฝึกอบรม

ทำเนียบเครือข่าย
สรุปประเด็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการฝึกอบรม | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
ครั้งที่ 1

< กลับด้านบน >

ครั้งที่ 2

< กลับด้านบน >

ครั้งที่ 3

< ?????????? >

ครั้งที่ 4

< ?????????? >

ครั้งที่ 5 (27 ก.ย. 2550)

สรุปผลการจัดการความรู้  4  ครั้งที่ผ่านมา  และได้กล่าวถึงสรุปการประเมินผลโครงการโดยให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาปัญหา และอุปสรรคบางประเด็นที่มีในการดำเนินโครงการฝึกอบรม ซึ่งได้จากแบบประเมินผลมาร่วมกันระดมความคิดเห็น ดังนี้
     1.  การประสานกันระหว่างหน่วยผู้จัดโครงการฝึกอบรมกับหน่วยงานของผู้เข้าร่วมโครงการ  เช่น  การที่หน่วยงานของกลุ่มเป้าหมายแจ้งเวียนโครงการไม่ทั่วถึงทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่ทราบว่ามีโครงการ  วิธีแก้ไข  คือ  ทำบันทึกเชิญกลุ่มเป้าหมายโดยส่งผ่านหน่วยงานเพื่อแจ้งให้กลุ่มเป้าหมายทราบโดยตรง  การส่งเรื่องถึงกลุ่มเป้าหมายเลยโดยที่ไม่ผ่านหน่วยงานทำให้เป็นการทำงานเกินขอบข่าย
       ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายทอดโครงการสัมมนาระหว่างการถ่ายทอดแบบ การประชุมทางไกล  (conference) กับ ถ่ายทอดผ่านเวปไซต์  ว่า การถ่ายทอดแบบการประชุมทางไกลนั้นมีความสิ้นเปลืองมากกว่าทั้งด้านจัดเตรียมสถานที่  และอื่น ๆ แต่การถ่ายทอดผ่านเวปไซต์นั้นสามารถชมได้ที่โต๊ะทำงานและสามารถชมย้อนหลังได้ แต่ก็ยังมีข้อเสียสำหรับหน่วยงานที่ระบบ internet ไม่ค่อยดี
     2. ผู้เข้าร่วมโครงการเข้าร่วมโครงการไม่ต่อเนื่องหรือไม่ครบตามหลักสูตร ที่ประชุมได้หารือกันอย่างกว้างขวาง  และร่วมกำหนดแนวทางที่ควรปฏิบัติไว้ให้ดำเนินการดังนี้
      1) ผู้รับผิดชอบโครงการทำรายงานถึงหน่วยงานของผู้เข้าร่วมโครงการ 
      2)  เก็บเงินค่าสมัครหากเข้าครบหลักสูตรจะได้รับคืนเงินค่าสมัคร 
      3)  คิดค่าปรับสำหรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกรณียกเลิกเข้าร่วมโครงการกะทันหัน
      4)  หน่วยงานของผู้เข้าร่วมโครงการมีข้อกำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการต้องรายงานให้หน่วยงานรับทราบ  และถ่ายทอดความรู้ให้บุคลากรคนอื่นในหน่วยงานทราบว่าได้อะไรบ้างจากการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรม 
      5)  มีการทดสอบหลังจากการอบรมแล้วรายงานผลการทดสอบไปยังหน่วยงานของผู้เข้าร่วมโครงการ
     3.  ระยะเวลาของหลักสูตรไม่เหมาะสมกับเนื้อหา  ที่ประชุมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยสรุปวิธีการแก้ไขได้ดังนี้  โดยดูจากประเมินผลโครงการที่ผู้เข้าร่วมโครงการได้ประเมินเพื่อช่วยในการปรับปรุงโครงการในครั้งต่อไป
     4.  หาวิทยากรได้ยาก  ที่ประชุมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาและได้บทสรุปการแก้ปัญหาคือ  ให้จัดทำฐานข้อมูลวิทยากร  เพื่อให้เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลของวิทยากรว่าวิทยากรแต่ละท่านมีความชำนาญในด้านใดบ้าง  เพื่อความสะดวกรวดเร็ว  ในการที่หน่วยงานอื่นจะนำไปปรับใช้แล้วขึ้น  Web site ไว้
     5.  เจ้าหน้าที่ขาดความรู้ด้านระเบียบเกี่ยวกับการจัดโครงการฝึกอบรม  ที่ประชุมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาและได้บทสรุปการแก้ปัญหาคือ  นำระเบียบที่เกี่ยวข้องมาสรุปขึ้นเวปไซต์ให้เข้าไปศึกษา  หาข้อมูลเพิ่มเติม  และได้เสนอให้มีการ FAQเกี่ยวกับปัญหาที่พบบ่อยๆ

<?????????? >

ครั้งที่ 6 (24 ก.ย. 2551)

1. ผู้มีอำนาจในการอนุมัติโครงการฝึกอบรม มีดังนี้
    1.1 ถ้าเป็นหน่วยงานที่มีรองอธิการบดีกำักัับดูแลให้นำเสนอรองอธิการบดีที่กำกับดูแลพิจารณาอนุมัติโครงการฝึกอบรม
    1.2 ถ้าเป็นหน่วยงานที่ไม่มีรองอธิการบดีกำกับดูแลให้เสนอเรื่องให้กองการเจ้าหน้าที่ตรวจสอบนำเสนอรองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการพิจารณาอนุมัติโครงการ
    1.3 ถ้าเป็นโครงการฝึกอบรมนานาชาติ ให้เสนอเรื่องให้กองการเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและนำเสนอ สกอ. พิจารณาอนมุัติโครงการ
2. ค่าตอบแทนวิทยากรระเบียบที่ใช้ คือ
    2.1 ระเบียบกระทรวงการคลัง 2549 (กรณีที่ใช้เงินงบประมาณ) (ระเบียบกระทรวงการคลัง ¾.È.. 2549)
    2.2 ประกาศระเบียบเงินรายได้ มก. พ.ศ. 2540 (กรณีใช้เงินรายได้) (ประกาศระเบียบเงินรายได้ มก. พ.ศ. 2540)
    ซึ่งกำหนดวิธีการเบิกจ่ายไว้ชัดเจน โดยสรุป ได้ดังนี้
    1) ระเบียบกระทรวงการคลัง ป.ตรี ไม่เกิน 600 บาท/ช.ม. ถ้าจำเป็นต้องใช้วิทยากรที่มีความรู้ความสามารถจ่ายได้ 2 เท่า
    2) ระเบียบรายได้ ป.ตรี จ่ายได้ไม่เกิน 2,000 บาท/ช.ม.
    ระเบียบกระทรวงการคลังได้เปิดโอกาสไว้ว่า ถ้าต้องใช้วิทยากรที่มีความสามารถ สามารถจ่ายได้มากกว่าที่กำหนดแต่ต้องให้ผู้มีอำนาจระดับกรม (อธิการบดี) เป็นผู้อนุมัติ
3. ที่ประชุมได้หารือถึงวิธีการแก้ปัญหากรณีที่ผู้เข้าอบรมอยู่ไม่ครบโครงการหรือยกเลิกการเข้าร่วมโ๕รงการกระทันหัน ไว้ดังนี้
    3.1 ในกรณีที่มีการมอบประกาศนียบัตรแล้วผู้เข้าร่วมเ้ข้าไม่ครบ สามารถเข้าร่วมโครงการเพื่อซ่อมในรุ่นต่อไปได้ ถ้าไม่เข้าร่วมอีกก็จะไม่สามารถเบิกค่าลงทะเบียนได้
    3.2 ใช้วิธีเรียกเก็บค่าเสียหายที่ไม่เข้าร่วมโครงการ แต่มีผู้แสดงความคิดเห็นว่าเคยทำแต่เกิดปัญหาว่าเก็บเงินแล้วไม่ทราบว่าจะนำเงินไปไว้ตรงไหน มีผู้เสนอให้ตรวจสอบกับกองคลังว่าเงินจำนวนนี้สามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง
    3.3 ถ้าแจ้งก่อนเวลาเร่ิมโ๕รงการจะคืนเงินส่วนหนึ่ง
    3.4 ให้สั่งจ่ายธนาณัติจะไม่รับเงินสด
    3.5 ถ้าลงทะเบียนวันแรกก็ดำเนินการเก็บเงินเลย หากใครขาดจะต้องำทเรื่องแจ้งเหตุผล ถ้าไม่ทำ ผู้รับผิดชอบโ๕รงการจะเป็นผู้แจ้งให้หน่วยงานทราบ
    3.6 ใช้วิธีเก็บค่าลงทะเบียนทีหลัง ถ้าเข้าไม่ครบจะทำเรื่องเก็บทำให้หน่วยงานทราบว่าเข้าร่วมไม่ครบ

<??????????>